วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553
ธุรกิจขายตรง แชร์ลูกโซ่ ธุรกิจเครือข่าย ต่างกันอย่างไร
ธุรกิจขายตรง แชร์ลูกโซ่ ธุรกิจเครือข่าย ต่างกันอย่างไร
ธุรกิจขายตรง
เป็นจุดกำเนิดของธุรกิจทั้ง3รูปแบบเลยก็ว่าได้
ลักษณะการทำธุรกิจ
ธุรกิจขายตรงสังเกตง่ายๆดูที่รายได้หลักของบริษัท จะได้มาจากการขายนั่นเอง
รายหลักได้ของสมาชิกที่ทำธุรกิจขายตรง ก็ได้มาจากเปอร์เซ็นต์จากการขาย
ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจนี้ ต้องเป็นนักขายมือทองทีเดียว จึงจะประสบความสำเร็จได้
รวมไปถึงสินค้าที่นำมาจำหน่ายก็ต้องสุดยอด หรือต้องมีจุดขาย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจประกันชีวิต
และสุดยอดขายตรงเมืองไทย
แชร์ลูกโซ่ (ความจริงไม่น่าจัดว่าเป็นธุรกิจได้)
แชร์ลูกโซ่นี้ผิดกฎหมายแต่ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา ก็ยังลอยนวลกันไป
ลักษณะการทำธุรกิจเข้าใจว่าแชร์ลูกโซ่แบบดั้งเดิมนั้นจะหากินโดยใช้วิธีหาสมาชิกโดยบอกสมาชิกว่าให้นำเงินมาลงขันกัน
เพื่อให้บริษัทนำเงินไปลงทุนโดยที่สมาชิกไม่ต้องทำอะไรเลย ผู้คนจึงให้ความสนใจเนื่องจากเห็นว่าไม่ต้องทำอะไรก็ได้เงินแต่บริษัทเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนเฉพาะในช่วงแรกเท่านั้นเพื่อจูงใจให้ผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้นแต่เมื่อมีจำนวนสมาชิกมากขึ้นบริษัทก็จะปิดตัวหายเข้ากลีบเมฆไปเลยโดยที่ผู้เสียหายก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องเอาเงินคืนจากใครเนื่องจากตัวบริษัทหรือที่ทำการบริษัทเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง
แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการดัดแปลงธุรกิจให้มีวิธีการหลากหลายมากยิ่งขึ้นโดยจะทำมาหากินกับการหาสมาชิกเป็นหลัก
แล้วก็หักหัวคิวกันเป็นรายๆไป อาจมาในรูปแบบของการหว่านล้อมแกมบังคับให้ซื้อสินค้าจำนวนมากๆ , ค่าสมัครสมาชิกที่แพง
การต่ออายุสมาชิก ฯลฯ ดังนั้นธุรกิจจึงต้องหาสมาชิกตลอดเวลา ไม่มี สคบ. อย. ประเทศไทย
ส่วน สินค้าของธุรกิจนี้แทบจะไม่มีความหมาย หรือแทบจะไม่พูดถึงกันเลยทีเดียว ส่วนมากจะมีตัวสองตัว หรือเป็นสินค้าที่ไม่ความพิเศษอะไรเลย การทำงานจะไม่สามารถหยุดได้ต้องทำกันไปตลอดถึงจะมีรายได้
ธุรกิจเครือข่าย
ธุรกิจเครือข่ายอยู่ตรงกลางระหว่างขายตรงและแชร์ลูกโซ่
ลักษณะการทำธุรกิจ
ธุรกิจนี้มีสินค้าจำหน่าย แต่ไม่ได้เน้นให้เอาไปขายใคร คือเน้นให้สมาชิกได้ใช้เป็นหลัก
ดังนั้นสินค้าของธุรกิจนี้จะต้องสุดยอดเช่นกันเพื่อให้เกิดการใช้ซ้ำ สินค้าควรมีความโดดเด่น เป็นความต้องการของผู้บริโภค มี อย.ในหลายประเทศยิ่งดี
มีแผนตอบแทนรายได้แก่นักธุรกิจที่ชัดเจน แน่นอน สำหรับธุรกิจเอมสตาร์นั้นแผนสตาร์แมทชิ่งผ่านการรับรองจาก สคบ.เรียบร้อยแล้ว
การทำธุรกิจเครือข่ายจึงมีแรงขับเคลื่อนจากสองทางนั่นคือ
1.มาจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค และการอุปโภคเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดรายได้สะท้อนกลับมา
2.แรงขับเคลื่อนจากผลตอบแทนในการทำธุรกิจเนื่องจากมีผลตอบแทนที่คุ้มค่า ข้อนี้เองที่เป็นแรงผลักดันตัวสำคัญในการขยายเครือข่ายอย่างรวดเร็ว
โดยส่วนมากแล้วบริษัทที่ทำเป็นเครือข่าย จะสามารถทำเป็นแบบขายตรงได้ด้วย
ดังนั้นบริษัทเดียวกัน คุณอาจจะเห็นสมาชิกบริษัทนั้น มีทั้งสไตล์ขายตรง และสไตล์เครือข่าย
ต่อไปนี้คุณคงไม่สับสนแล้ว เพราะบางท่านก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำทั้ง 2 สไตล์เลย
ที่มา : aim4star