วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553
E (Employee) - ลูกจ้าง
- ทำงานเพื่อค่าจ้าง
- รายได้ถูกแบ่งตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่ใช่ความสามารถ
- ปลายปากกาของนายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
- ต้องมีวุฒิในการสมัครเป็น "ลูกจ้าง"
- ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร หยุดงาน 7 วันเอาซองขาวไปเลย
- ตกงานก็เท่ากับล้มละลาย
(ตกงาน 3 เดือน ก็ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
- อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ
S (Self-employed) - ทำธุรกิจส่วนตัว
- ขายเวลาแลกกับเงิน ก็คือการจ้างตัวเองเพื่อทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีนายจ้าง ไม่มีลูกจ้าง
- ประสบการณ์และความรู้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ความเสี่ยง ซึ่งมีหลายตัวด้วยกัน
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า ธุรกิจจะเดินยาก
- อาจจะต้องทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ หยุดงานก็ไม่มีรายได้B (Business Owner) - ผู้ประกอบการ
- มีทุน
- หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
- ไม่ทำก็มีรายได้
B มีด้วยกัน 3 ประเภท
- เจ้าของระบบ - ก็เจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการ ซึ่ง 80 % ถูกวิจัยว่าเจ๊ง เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1 ทุนน้อย แพ้ทุนคู่แข่ง
2 ทำเลไม่ดี
3 คู่แข่งเยอะ
4 ขาดความเชี่ยวชาญ
5 ประสบการณ์น้อย
6 ประสิทธิภาพของลูกจ้างต่ำ
7 บางธุรกิจต้องลงทุนสูง
8 ความเสี่ยงสูง
- ซื้อระบบ - ประเภทธุรกิจ แฟรนไซน์ เช่น seven
ธุรกิจแบบนี้มีข้อดีตรงความเสี่ยงต่ำ แต่จะต้องลงทุนสูงมาก
- การตลาดแบบเครือข่าย - Network Marketing (เป็นช่องทางที่จะเป็น
เจ้าของกิจการ ลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงต่ำ เป็นโอกาสสำหรับนักล่าฝัน)
I (Investor) - นักลงทุน
- ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย
- ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขายต่อ
คุณอยากเป็นแบบไหน จะให้ระบบทำงานแทนคุณ หรือ คุณต้องลงมือทำเองตลอดชีวิต
credit: MOMO_EDWANA_AOKI
เงิน 4 ด้าน ความจริงแห่งชีวิต คุณอยากเป็นแบบไหน
2010-09-10T22:24:00+07:00
My Network
การเงิน|เงิน|ธุรกิจ|ระบบ|
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)